อุปสรรค ปัญหา กับชีวิตคนเราเหมือนเป็นของคู่กัน เพราะว่ามีน้อยคนมากที่จะสามารถประสบความสำเร็จได้โดยไม่เคยผ่านการล้มเหลวมาก่อน ถ้าไม่เชื่อลองดูเรื่องรางของบุคคลต่อไปนี้กว่าที่เขาจะกลายเป็นคนดังประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงระดับโลกได้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง
Thomas Alva Edison
เรื่องราวความล้มเหลวของ Thomas Alva Edison ถูกใช้สอนอย่างแพร่หลายในเรื่องความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น เพราะกว่าที่เขาจะค้นพบวิธีการสร้างหลอดไฟได้ เขาต้องผ่านการทดลองที่ล้มเหลวมากว่า 10,000ครั้งกว่าจะเจอผลลัพธ์ที่ใช่ หรือแม้กระทั่งในวัยเด็กเขาถูกไล่ออกจากโรงเรียน และถูกปฏิเสธงานอีกมากมาย จนไม่น่าเชื่อว่าทุกวันนี้เขาจะกลายเป็นบิดาแห่งสิ่งประดิษฐ์มากมาย
" I have not failed, I've just found 10,000 ways that won't work "
Michael Jordan
ก่อนที่ Michael Jordan จะกลายเป็นนักบาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ประวัติศาสตร์บาสเก็ตบอลเคยมีมา เขาเคยผ่านการล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วนเช่นกัน เพราะครูฝึกหลายคนปฏิเสธที่จะรับตัวเขาเข้าทีม เนื่องจากรูปร่างที่ตัวเล็กเกินไป หรือแม้กระทั่งตอนที่เข้าร่วมลีค NBA แล้วก็ตาม adidas ยังปฏิเสธข้อเสนอสปอนเซอร์ให้กับ Michael Jordan เนื่องจากคิดว่าเขาคงจะไม่ประสบความสำเร็จในการเล่นอาชีพทั้งที่ Jordan อยากจะเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ adidas อย่างมาก แต่แล้วหลังจากมุ่งมั่นฝึกซ้อมอย่างหนัก และทำผลงานได้ดีในระดับมหัศจรรย์ของยุคนั้น ชื่อ Michael Jordan จึงขึ้นทำเนียบกลายเป็ฯสุดยอดนักบาสตลอดกาล
Steve Jobs
ชายผู้อุทิศตัวเองให้กับการสร้างนวัตกรรมของโลกอย่างคอมพิวเตอร์ แต่เขากลับถูกไล่ออกจากบริษัทที่เขาสร้างมันด้วยสองมือ เพียงแต่เขาเลือกที่จะไม่ยอมแพ้แสวงหาโอกาส และยังคงทำงานหนักต่อไปไม่ว่าจะเป็น NeXT, PIXAR จนสุดท้ายคนที่เคยไล่เขาออก ต้องเชิญให้เขากลับมา และเป็นผู้ที่ทำให้มนุษย์ไม่สามารถขาดโทรศัทพ์ได้เลย
Walt Disney
การที่มีคนมาตราหน้าคุณว่าขาดจินตนาการ และไม่มีไอเดียสร้างสรรค์ แถมต้องถูกไล่ออก ปฏิเสธงาน ล้มละลาย คงเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายสำหรับคนๆหนึ่งที่ต้องพบเจอในชีวิตการทำงาน แต่ใครจะรู้ว่าชายผู้ถูกหาว่าขาดจินตนาการคนนั้นคือ Walt Disney ที่ไม่ย่อท้อต่อคำสบประมาท จนสามารถฝ่าฝันอุปสรรคจนสร้างอาณาจักรการ์ตูนที่มีมูลค่ามหาศาล และครองใจเด็กๆทั่วทั้งโลกได้ สิ่งนี้ต้องใช้ความเพียร และอดทนล้วนๆในการเอาชนะคำดูถูกต่อว่า
Bill Gates
เรื่องราวของเขาพูดถึงอย่างมากมายในฐานะบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ซึ่งหลายคนก็คงรู้ว่าเขาต้องออกมาจากมหาวิทยาลัย และเผชิญกับความล้มเหลวโดยล้อเลียน ถากถางว่าเป็นพวก เนิร์ด บ้าคอมพิวเตอร์ ในช่วงเริ่มแรกก่อนที่จะมี Microsoft แม้กระทั้งวันที่เขามีซอฟแวร์ Microsoft แล้วก็ยังไม่วายที่จะโดน Apple ปฏิเสธ นั่งจึงเป็นแรงผลักดันให้ Bill Gates เลือกจะทำบริษัทเป็นของตัวเอง จนกลายเป็ฯมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก
Steven Spielberg
หากโอกาสไม่วิ่งหาเราก็จงวิ่งเข้าหามันเอง การถูกปฏิเสธจากโรงเรียนศิลปะ และภาพยนตร์ คงทำให้ใครหลายคนเลิกฝันถึงการเดินทางในสายอาชีพนี้แล้ว แต่ Steven Spielberg ไม่เคยล้มเลิกความฝันที่จะสร้างหนัง เพราะเขายังคงมุ่งหน้าทำตามความฝันต่อไป จนสามารถสร้างภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากมาย และได้ชื่อว่าเป็นพ่อมดแห่ง Hollywood มิหนำซ้ำเขายังบริจาคเงินเพื่อสร้างตึกให้กับโรงเรียนที่เคยปฏิเสธเขาอีกด้วย
Albert Einstein
การถูกตราหน้าว่าโง่เขลา สมองช้า คงเป็ฯอุปสรรคต่อเด็กซักคนที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น มิหนำซ้ำยังถูกปฏิเสธการเข้าเรียนต่อในหลายๆ โรงเรียน คงทำให้ชะตาชีวิตเขาคงจะหนีไม่พ้นผู้ใช้แรงงานแต่นั้นกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Albert Einstein ค้นพบว่าจินตนาการสำคัญกว่าความรู้ และจนกระทั่งเขาได้ค้นพบทฤษฎีสัมพันธภาพ E=mc2 ซึ่งเป็นหนึ่งในสมการก้องโลก
Harland David Sanders
ชายที่ล้มเหลวมาเกือบทั้งชีวิตตั้งแต่เด็กจนแก่ ชีวิตที่เป็นเหมือนอนุสรณ์แห่งความล้มเหลวที่ยังหายใจอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการโดนไล่ออกจากงานเป็นว่าเล่น ถูกภรรยาที่รักทอดทิ้งไป ไม่มีเงินติดตัว ถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวตายเขาได้นำเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตจากประกันสังคม เพื่อซื้อไก่มาทอดขาย แต่แล้วสิ่งเล็กๆ นี้กลับเปลี่ยนแปลงให้เขากลายเป็นเศรษฐีในเวลาถัดมาความสำเร็จกับความล้มเหลวจริงๆ แล้วห่างกันไม่มาก มันขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกจะลงมือทำหรือยอมแพ้
Vincent Van Gogh
ในขณะที่ปัจจุบันรูปวาดของ Van Gogh จิตกรที่ยิ่งใหญ่สามารถตีราคาผลงานได้รูปละไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน แต่เขากลับมาไม่เคยได้รับเม็ดเงินเหล่านั้นเข้ากระเป๋าเลย เพราะตลอดช่วงชีวิตของเขามีเพียงรูปวาด The Red Vineyard เท่านั้นที่สามารถขายได้ก่อนตาย ชีวิตของเขาถูกปฏิเสธตั้งแต่เริ่มแรกที่อยากจะเข้าบวชเป็นพระ แต่ถูกปฏิเสธเนื่องจากเทศนาไม่เก่ง จนทำให้ต้องหันมาวาดรูป ซึ่งตลอดชีวิต Van Gogh แทบจะเป็นศิลปินไส้แห้งจวบจนเขาสิ้นชีวิตแต่แล้วสิ่งที่เขาพยายามกลับมาเห็นผลตอนเขาเสียชีวิตไปแล้ว ภาพวาดของเขากลายเป็นแบบอย่าง และมีอิทธิพลสำหรับจิตกรยุคใหม่ในแขนงอิมเพรชชั่นนิสม์ โมเดิร์น อาร์ต
Soichiro Honda
ลูกชายของช่างตีเหล็กที่มีฐานะปานกลาง ด้วยความหลงไหลในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องยนต์ และช่างกล ทำให้เขาตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของอู่รถของตัวเองสักวันหนึ่งแต่แล้วไม่ใช่เรื่องง่ายที่เด็กหนุ่มอย่างเขาจะได้จับงานช่างอย่างแท้จริง เพราะ Soichiro Honda ถูกส่งให้ไปทำงานจิปาถะ และไม่ได้ฝึกซ่อมรถเลยด้วยซ้ำ จนเขาเกิดท้อแท้ และคิดจะล้มเลิกกลับไปเป็นช่างตีเหล็ก และซ่อมจักรยานเหมือนกับครอบครัวเขาสุดท้ายเขาตัดสินใจกลับมาสู้ใหม่อีกครั้ง จนได้ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าช่างอย่างรวดเร็ว และเริ่มประดิษฐ์ และดัดแปลงเครื่องยนต์จากอะไหล่เหลือใช้เพื่อประกอบรถแข่งและเกิดเป็น ฮอนด้า เรสซิ่ง และกลายเป็น ฮอนด้า มอเตอร์ในเวลาต่อมา